วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

น้ำเมี้ยง

วิธีทำน้ำเมี้ยง

1. เจียวกระเทียมพอเหลือง ใส่ กะปิ ปลาร้า เนื้อหมูบด ผัดจนหอม
2. เติมน้ำ 2 ถ้วย ใส่ข้าวคั่ว คนให้เข้ากัน ใส่หัวน้ำเหมี้ยงละลายน้ำ
3. คนไปเรื่อยๆ จนข้าวคั่วสุก ใส่ขิงซอย และกระเทียมเจียว ปิดไฟ


เมื่อใส่ข้าวคั่วแล้ว ต้องคนด้วยไฟอ่อนๆ เพื่อไม่ให้ข้าวคั่วติดหม้อ

แกงฮังเล



วิธีทำแกงฮังเล


1. หั่นเนื้อหมูสันคอและหมูสามชั้นเป็นชิ้น ขนาด 1.5 x 1.5 นิ้ว

2. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด

3. ผสมเครื่องแกง ผงฮังเล สับปะรด และเนื้อหมู คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง

4. นำหมูที่หมักไว้มาตั้งไฟ ใส่น้ำเล็กน้อย ผัดจนกว่าหมูตึงตัว เคี่ยวต่อ คอยเติมน้ำเรื่อยๆ จนหมูนิ่มได้ที่

5. ใส่น้ำอ้อยป่น น้ำมะขามเปียก ใส่กระเทียม และขิงซอย คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อ

6. ใส่ถั่วลิสงคั่ว พอเดือดสักพัก ปิดไฟ

เคล็ดลับในการปรุงการคั่วเครื่องแกง

ใช้ไฟปานกลาง ใช้เนื้อกระท้อนแทนมะขามเปียกได้ ให้รสชาติเปรี้ยว และมีกลิ่นหอมเคล็ดลับในการเลือกส่วนผสมหมูสามชั้น ควรเลือกที่มันไม่หนาเกินไป หรือเลือกใช้ซี่โครงหมูแทน ก็ได้

แกงผักขี้ขวง

วิธีทำแกงผ้กขี้ขวง

1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ต้มน้ำ พอเดือด ละลายเครื่องแกงในน้ำเดือด
3. ใส่ปลาแห้ง ต้มจนปลานุ่ม ใส่มะเขือเทศ
4. ใส่ผักขี้ขวง พอผักสุก ปิดไฟ

เคล็ดลับในการปรุงไม่ควรนำผักขี้ขวงแช่น้ำ จะทำให้เสียคุณค่าทางโภชนาการ

แกงบอน

วิธีทำแกงบอน
1. บอนปอกเปลือก หั่นเป็นท่อน ล้างน้ำ แล้วนำไปนึ่ง
2. นึ่งให้สุกจนเละ ประมาณ 30 นาที แล้วพักไว้
3. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
4. เจียวกระเทียมพอให้เหลือง ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม ใส่ข่าหั่น ตะไคร้ซอย ผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำมะขามเปียก เกลือ ผัดให้เข้ากัน ใส่หูหมู ผัดให้เข้ากัน
5. ใส่บอนลงผัดให้เข้ากัน
6. ใส่ใบมะกรูดฉีก คนให้เข้ากัน ปิดไฟ

เคล็ดลับในการปรุงการนึ่งบอน ต้องให้สุก จับดูแล้วนิ่มจนเละ ถ้าบอนไม่สุก จะทำให้เกิดอาการระคายคอ เคล็ดลับในการเลือกส่วนผสมเลือกใช้บอนต้นอ่อน พันธุ์สีเขียวสด และไม่มีสีขาวเคลือบอยู่ตามก้านและใบ บอนสีเขียวสด เรียกว่า บอนหวาน ส่วนชนิดที่มีสีซีดกว่า และนวลขาวกว่า เรียกว่า บอนคัน ส่วนของบอนที่นำมาแกงคือ หลี่บอน เป็นยอดอ่อน หรือใบอ่อนของบอนที่อยู่ใกล้โคนต้น ในการปรุงแกงบอน ถ้าไม่ใช้น้ำมะขามเปียก ให้ใช้น้ำส้มป่อยแทนได้ (สิรวิชญ์ จำรัส, 2550; รัตนา พรหมพิชัย, 2542, 479

ขนมจีนน้ำเงี้ยว




วิธีทำขนมจีนน้ำเงี้ยว

1. ต้มน้ำ พอเดือด ใส่ซี่โครงหมู ต้มจนหมูนุ่ม

2. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด

3. ผัดเครื่องแกงกับน้ำมัน จนมีกลิ่นหอม ใส่เต้าเจี้ยวลงผัด คนให้เข้ากัน

4. ใส่หมูบด ผัดให้เข้ากัน จนหมูสุก

5. ใส่เครื่องแกงที่ผัดแล้วลงในน้ำหม้อต้มกระดูก ต้มจนเดือด ใส่ดอกงิ้ว ต้มต่อประมาณ 10 นาที

6. ใส่เลือดไก่ที่หั่นแล้ว คนให้ทั่ว

7. ใส่มะเขือเทศ

8. ตั้งไฟต่อประมาณ 5 นาที ยกลง นำขนมจีนใส่จาน ราดด้วยแกง (น้ำเงี้ยว) รับประทานกับเครื่องเคียง

เคล็ดลับในการปรุงการทำน้ำเงี้ยวสามารถใช้เลือดไก่หรือเลือดหมูก็ได้

อาหารพื้นเมือง


วิธีทำข้าวซอยไก่
1. โขลกเครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด
2. ตั้งน้ำกะทิประมาณ 1 ถ้วย พอเดือด
3. ใส่เครื่องแกงผัดจนหอม
4. ใส่ผงกะหรี่ละลายน้ำเล็กน้อย
5. ใส่ไก่ ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำเล็กน้อย ใส่น้ำตาลปี๊บ แล้วเติมกะทิ เคี่ยวต่อจนไก่นุ่ม
6. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช พอร้อนใส่เส้นข้าวซอยที่คลี่ออกจากกันแล้ว ทอดพอเหลืองกรอบ เพื่อทำเส้นกรอบสำหรับโรยหน้า
7. ลวกเส้นข้าวซอยกับน้ำเดือดประมาณ 1 นาที แล้วนำมาลวกในน้ำเย็น

เคล็ดลับในการปรุงข้าวซอย

ปรุงได้ทั้งเนื้อไก่ เนื้อวัว สำหรับการทำข้าวซอยเนื้อ สำหรับการทำข้าวซอยเนื้อควรหั่นเป็นชิ้นพอคำ ต้มให้เปื่อยก่อน แล้วนำไปเคี่ยวกับเครื่องแกงเคล็ดลับในการเลือกส่วนผสมการเลือกเนื้อไก่ ควรเลือกน่องและสะโพก สำหรับข้าวซอยเนื้อ ควรใช้เนื้อสันคอ

อาหารพื้นเมืองภาคเหนือ